ฝนตกหนัก หลังคารั่ว ต้องตรวจเช็คที่ไหนบ้าง

ฝนตกหนัก หลังคารั่ว ต้องตรวจเช็คที่ไหนบ้าง

     เมื่อฝนตกหนัก สิ่งที่เจ้าของบ้านหลายคนต้องเผชิญคือ “ปัญหาหลังคารั่ว” ที่สร้างความเดือดร้อนทั้งด้านความเป็นอยู่ ความปลอดภัย และสุขภาพของคนในบ้าน บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกถึงสาเหตุ วิธีตรวจเช็ค การป้องกัน และแนวทางการแก้ไขปัญหาหลังคารั่วอย่างมืออาชีพ เพื่อให้บ้านของคุณปลอดภัยในทุกฤดูฝน

ทำไมหลังคาถึงรั่วเมื่อฝนตกหนัก
   
ก่อนจะเริ่มลงมือแก้ไขหรือป้องกัน สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจสาเหตุของปัญหาเสียก่อน ซึ่งปัญหาหลังคารั่วมักเกิดจาก
วัสดุเสื่อมสภาพ – แสงแดด ลมฝน ความชื้น ทำให้แผ่นหลังคา ผนึกซีล หรือรอยต่อเสื่อมสภาพตามกาลเวลา
การติดตั้งที่ผิดวิธี – หากช่างไม่มีประสบการณ์หรือใช้วัสดุไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดช่องว่างเล็ก ๆ ที่น้ำซึมผ่านได้
ขาดการบำรุงรักษา – บ้านหลายหลังไม่เคยตรวจเช็คหลังคาเป็นเวลาหลายปี ทำให้ปัญหาเล็กกลายเป็นปัญหาใหญ่
โครงสร้างเคลื่อนตัว – เมื่อบ้านทรุดตัวหรือเกิดแผ่นดินไหวเล็ก ๆ อาจทำให้หลังคาร้าวหรือแยกจากผนัง

จุดที่ต้องตรวจเช็คหลังคา 8 จุดสำคัญ
1. แผ่นหลังคา (กระเบื้อง / สังกะสี / ไฟเบอร์ซีเมนต์)
-ตรวจหารอยแตกร้าว แผ่นหลุด สีซีด หรือคราบเปียก
– ดูการซ้อนทับแผ่นว่ามีการวางผิดแนวหรือไม่
– จุดยึด เช่น สกรูหรือคลิปล็อก หลุดหรือเป็นสนิมหรือไม่
แนวทางแก้ไขเบื้องต้นให้ใช้เทปกันน้ำ ซีแลนท์ หรือผ้าใบคลุมชั่วคราวจนกว่าจะซ่อมถาวรได้
2. ชายคา
– ตรวจดูรอยรั่วบริเวณจุดเชื่อมระหว่างชายคากับผนังบ้าน
– ช่องว่างจากการติดตั้งไม่แน่น น้ำค้างหรือความชื้นภายในชายคา
– ใช้ไฟฉายส่องดูตอนกลางคืน หากเห็นแสงลอดผ่านแสดงว่ามีช่องรั่ว
3. รางน้ำฝน
– ตรวจหารอยแตกร้าว รูรั่ว จุดต่อไม่แน่น
– ตรวจดูว่ามีใบไม้หรือขยะอุดตันหรือไม่
– ควรล้างรางน้ำฝนอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งก่อนและหลังหน้าฝน
4. ปล่องไฟหรือปล่องอากาศ
– ตรวจสอบยางซีลรอบปล่องว่าหลุดหรือเสื่อมสภาพหรือไม่
– ตรวจรอยสนิม และน้ำซึมรอบ ๆ ฐานปล่อง
5. หน้าต่าง
– ตรวจกรอบกระจก รอยร้าว และความแน่นของโครงสร้าง
– ยางซีลรอบหน้าต่างหากแห้งกรอบ ควรเปลี่ยนทันที
6. จุดต่อและมุมหลังคา
– จุดที่หลังคาเปลี่ยนระดับหรือต่อกับโครงสร้างอื่น มักเป็นจุดรั่วที่มองข้าม
– ตรวจ ซีแลนท์ ว่าหลุดหรือแห้งแตกหรือไม่
7. หลังคาต่อเติม
– จุดต่อระหว่างหลังคาเดิมและใหม่มักเกิดช่องว่าง
– การใช้วัสดุไม่เหมาะสม หรือองศาหลังคาไม่พอทำให้น้ำย้อน
8. โครงสร้างภายใน (ใต้หลังคา)
– คานไม้ผุ คานเหล็กขึ้นสนิม ความชื้นสูง และรอยน้ำซึมบนฝ้าเพดาน

เมื่อไหร่ควรตรวจเช็คหลังคา
การตรวจเช็คหลังคาควรทำอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และช่วงเวลาที่ควรตรวจเป็นพิเศษ ได้แก่
– ก่อนหน้าฝน (เมษายน – พฤษภาคม) เพื่อเตรียมรับมือ
– หลังพายุใหญ่ ตรวจหาความเสียหาย
– หลังหน้าฝน (พฤศจิกายน) ตรวจสอบผลกระทบหลังฤดูฝน
– ทุก 6 เดือน สำหรับบ้านที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป

สัญญาณเตือนฝนรั่ว
– ได้ยินเสียงน้ำหยดจากฝ้าเพดาน
– พบคราบน้ำเหลืองหรือเชื้อราบนผนัง
– มีกลิ่นอับชื้นในบ้าน
– ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นผิดปกติจากการใช้แอร์มากขึ้น

เมื่อไหร่ควรเรียกช่างมืออาชีพ
– หลังคาทรุด หรือแผ่นหลุดหลายจุด
– รั่วซ้ำซาก แม้ซ่อมไปแล้วก็ยังมีปัญหา
– หลังคาอายุเกิน 15-20 ปี
– ไม่มีความมั่นใจในการตรวจเช็ค หรือมีความเสี่ยงจากโครงสร้างสูง

          การตรวจเช็คและดูแลหลังคาเป็นประจำไม่ใช่เรื่องเล็ก แต่เป็นการลงทุนที่ช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ในอนาคต บ้านที่มีหลังคาแข็งแรงไม่เพียงแค่ปลอดภัย แต่ยังประหยัดค่าใช้จ่ายและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้อยู่อาศัย อย่ารอให้ฝนตกแล้วค่อยซ่อม แต่จงเตรียมพร้อมก่อนจะเกิดปัญหา เพื่อความอุ่นใจในทุกฤดูฝน
หากไม่มั่นใจ เรียกช่างผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบคือทางเลือกที่ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด

     หากสนใจบริการตรวจสอบ ซ่อมแซม หลังคาจากเรา หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลบริการสามารถติดต่อ ฝ่ายขายเลิศวสิน โทร. 053126155   ได้เลยครับ