ต้องทาสีในฤดูฝน ควรทำอย่างไร

ต้องทาสีในฤดูฝน ควรทำอย่างไร

‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ฤดูฝน เป็นช่วงเวลาที่หลายคนพยายามหลีกเลี่ยงการทำงานภายนอกบ้าน โดยเฉพาะงานที่ต้องการความแห้งและความสะอาดของพื้นผิว เช่น การทาสีบ้าน แต่ในหลายกรณี เราไม่สามารถรอจนถึงหน้าร้อนหรือหน้าแล้งได้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะบ้านใหม่ที่ต้องรีบย้ายเข้า การรีโนเวตตามกำหนด หรือปัญหาสีลอก พอง หลุดร่อนที่ไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้
‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎แล้วถ้าจำเป็นต้องทาสีในช่วงฤดูฝนจริง ๆ เราจะมีวิธีรับมืออย่างไรบ้าง บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ เทคนิคการทาสีบ้านหน้าฝนให้สวย ทน และไม่เสียเปล่า พร้อม แนะนำผลิตภัณฑ์สีคุณภาพสูงที่เหมาะกับการใช้งานในสภาพอากาศชื้น

ปัญหาที่มักเกิดจากการทาสีในฤดูฝน
การทาสีในฤดูฝนมีข้อจำกัดหลายประการที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหา เช่น

  • สีไม่เกาะผนังดี เพราะผนังยังมีความชื้นอยู่
  • สีแห้งช้า ทำให้ฝุ่นเกาะ สีเปรอะ หรือสีไหลเยิ้ม
  • สีพอง ลอก เพราะทาในช่วงที่ฝนตกหรืออากาศมีความชื้นสูงเกินไป
  • เกิดเชื้อรา ตะไคร่น้ำ หากเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสม

    ดังนั้น การทาสีในฤดูฝนต้องอาศัยทั้ง การวางแผนอย่างรอบคอบ และ การเลือกวัสดุที่ตอบโจทย์สภาพอากาศ

เทคนิคทาสีบ้านหน้าฝนให้ได้ผลดี
1. ตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเริ่มงาน
‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ก่อนทาสีควรเช็ก พยากรณ์อากาศล่วงหน้า 3–5 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าฝนจะไม่ตกในวันทาและหลังจากทาเสร็จอย่างน้อย 24–48 ชั่วโมง
2. เตรียมพื้นผิวให้แห้งสนิท
‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ พื้นผิวที่ดีคือพื้นผิวที่ สะอาด แห้ง และไม่มีคราบ ดังนี้ ขัดล้างคราบฝุ่น คราบตะไคร่น้ำ หรือคราบเกลือออกให้หมด ใช้ผ้าซับหรือพัดลมช่วยเร่งให้พื้นผิวแห้ง
หากผนังเคยมีปัญหาเชื้อรา ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราก่อนทาสี
3. เลือกสีที่เหมาะกับฤดูฝน
‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ควรใช้ สีน้ำอะคริลิกแท้ 100% ซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำ ยึดเกาะดี และแห้งเร็ว รวมถึงมีสารป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำ

แนะนำผลิตภัณฑ์สีที่เหมาะกับฤดูฝน
1. TOA Supershield Duraclean A+
– สีอะคริลิกแท้ 100%
– แห้งเร็ว ทนต่อสภาพอากาศชื้น
– มีคุณสมบัติ Easy Clean เช็ดล้างง่าย
– ป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ดี
– ใช้ได้ทั้งภายนอกและภายใน
เหมาะสำหรับ ผนังบ้านภายนอกที่ต้องการความคงทนต่อฝนฟ้า

2. Jotun Majestic True Beauty Sheen
– สีทาภายในแต่เหมาะกับฤดูฝนเพราะแห้งเร็ว
– ฟิล์มสีเรียบเนียน ป้องกันรอยด่างจากความชื้น
– ไม่มีกลิ่นฉุน
– ป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย
– เหมาะสำหรับ งานภายในบ้านที่ต้องการความปลอดภัยและรวดเร็ว

3. BegerShield Air Fresh
– มีคุณสมบัติลดกลิ่นอับในบ้านช่วงฝนตก
– ผสมเทคโนโลยี Titanium ช่วยให้ฟิล์มสีแข็งแรง
– ป้องกันความชื้นและเชื้อรา
– ระบายอากาศดี
เหมาะสำหรับ บ้านที่อยู่ในพื้นที่แออัด หรือมีความชื้นสะสมสูง

วิธีทาสีที่ถูกต้องในฤดูฝน
แม้จะมีสีดี ก็ยังต้องมีเทคนิคที่ถูกต้อง

1. ใช้รองพื้นกันความชื้น (Moisture Sealer)
เช่น
เบเยอร์ เรนควิก ไพรเมอร์ บี-2900 Beger Rain Quick Primer B-2900
 ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ เป็นสีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ ที่เหมาะสำหรับปูนเก่า ปูนใหม่ และปูนสด โดยสามารถกันชื้นภายนอก (ความชื้นชั่วคราวที่เกิดจากน้ำภายนอก) ได้ 70% ทนชื้นภายใน (ความชื้นสะสมใต้ดิน) ได้ 25% เพิ่มประสิทธิภาพระบายความชื้นด้วยฟิล์มสีหายใจได้ และยึดเกาะดีเยี่ยมแม้เป็นสูตรน้ำ ป้องกันการเกิดคราบด่างและคราบเกลือได้ดีเยี่ยม ปลอดสารปรอท ตะกั่ว และโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
รวมสีรองพื้นหน้าฝน ทาแล้วไม่กลัวชื้น

ทีโอเอ เอ็กซ์ตร้า เวท ไพรเมอร์ TOA Extra WET Primer
 ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ สีรองพื้นสูตรพิเศษทนความชื้นสะสมสูงสุดถึง 70% ด้วยคุณสมบัติของเรซินชนิดพิเศษหายใจ และระบายความชื้นได้ตลอดเวลา ทำให้สามารถทาบนพื้นผิวปูนที่ฉาบเสร็จใหม่ๆ ได้ทันที พร้อมเทคโนโลยีการยึดเกาะขั้นสูงสุดจากยุโรป เพื่อพื้นผิวผสานกับสีทับหน้าได้ยอดเยี่ยมเป็นเนื้อเดียวกัน ปราศจากปัญหาสีโป่งพอง ลอกล่อนจากความชื้นตลอดอายุการใช้งานแม้ในสภาวะอากาศและความชื้นที่รุนแรง เหมาะสำหรับพื้นผิวทุกชนิด ทั้งปูนใหม่ที่มีความชื้นสูง ช่วยให้เก็บงานได้เร็วแม้ในฤดูฝนที่ปูนเปียกชื้นตลอดเวลา และปูนเก่าเสื่อมสภาพ เป็นฝุ่นชอล์กอย่างรุนแรง

2. ทาช่วงสายถึงบ่ายต้น
เวลาที่แนะนำ: 09.00–13.00 น.
ช่วงนี้อุณหภูมิไม่สูงเกินไปและฝนยังไม่ตก
หลีกเลี่ยงการทาหลัง 15.00 น. เพราะสีอาจแห้งไม่ทัน

3. ทาทีละบาง ๆ หลายรอบ
อย่าทาครั้งเดียวหนา ๆ เพราะจะทำให้สีแห้งไม่ทั่วถึง
รอให้สีแต่ละชั้นแห้งดีประมาณ 2–4 ชั่วโมงก่อนทารอบถัดไป

4. ใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพ
ลูกกลิ้งและแปรงที่ดี ช่วยให้ฟิล์มสีกระจายตัวสม่ำเสมอ
ป้องกันการเกิดคราบหรือรอยพาดจากสีไม่เรียบ

การดูแลหลังทาสีในฤดูฝน
อย่าพิงผนังหรือวางของแนบผนังภายใน 48 ชั่วโมงหลังทาสี

 ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ หมั่นสังเกตว่ามีรอยรั่วหรือคราบชื้นเกิดขึ้นหรือไม่
หากมีการลอก พอง ให้รีบแก้ไขก่อนลุกลาม

ทาสีหน้าฝน…ทำได้ ถ้ารู้วิธี
‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ แม้ฤดูฝนจะดูไม่เหมาะกับการทาสี แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่และการวางแผนที่ดี เราสามารถทาสีในช่วงเวลานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สีจะสวย ทน ไม่ลอก และไม่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ หากเลือกใช้ สีคุณภาพสูงที่เหมาะกับสภาพอากาศชื้น มีสารป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำ และวางแผนการทาอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน

 ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ ‎‏‏‎ หากคุณกำลังวางแผนทาสีบ้านในฤดูฝน อย่าลืมเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์และได้รับการรับรองคุณภาพ เพื่อให้บ้านของคุณสวยงามอย่างมั่นใจ ไม่ว่าฝนจะตกหนักแค่ไหนก็ตาม

            หากใครสนใจผลิตภัณฑ์ ในบทความ หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อ ฝ่ายขายเลิศวสิน โทร. 053126155 หรือ ช้อปออนไลน์ Tiktok shop  ได้เลยครับ และถ้าไม่อยากทำเอง ต้องการบริการมืออาชีพ สามารถติดต่อ ทีมงานจากเลิศวสิน ได้เลยครับ