เทคนิคแก้ปัญหาพื้นเป็นตะไคร่น้ำเมื่อฝนตก

เทคนิคแก้ปัญหาพื้นเป็นตะไคร่น้ำเมื่อฝนตก

    ในช่วงหน้าฝน หรือบริเวณที่มีความชื้นสูงตลอดปี เช่น ระเบียง สนามหญ้า ทางเดินข้างบ้าน หรือพื้นปูนรอบบ้าน ปัญหาที่หลายบ้านต้องเผชิญคือ “พื้นลื่นเป็นตะไคร่น้ำ” ไม่เพียงทำให้บ้านดูสกปรกและไม่น่ามอง แต่ยังเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ

แก้ปัญหาฝนตก พื้นลื่นเป็นตะไคร่น้ำ แก้อย่างไรดี
    ในช่วงหน้าฝน หรือบริเวณที่มีความชื้นสูงตลอดปี เช่น ระเบียง สนามหญ้า ทางเดินข้างบ้าน หรือพื้นปูนรอบบ้าน ปัญหาที่หลายบ้านต้องเผชิญคือ “พื้นลื่นเป็นตะไคร่น้ำ” ไม่เพียงทำให้บ้านดูสกปรกและไม่น่ามอง แต่ยังเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ
    บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหา วิธีการแก้ไข และการป้องกันตะไคร่น้ำอย่างยั่งยืน พร้อมแนะนำผลิตภัณฑ์และเทคนิคที่คุณสามารถนำไปใช้ได้จริง

ตะไคร่น้ำคืออะไร ทำไมพื้นถึงลื่น
    ตะไคร่น้ำ (Algae) เป็นพืชขนาดเล็กที่เจริญเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ชื้น แสงแดดส่องถึงเล็กน้อย และมีพื้นผิวเปียกน้ำอย่างต่อเนื่อง มักจะพบได้ทั่วไปบนพื้นกระเบื้อง พื้นคอนกรีต พื้นหินล้าง และพื้นทรายล้าง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีร่มเงา เช่น ใต้ต้นไม้ ริมกำแพง หรือหลังบ้าน เมื่อฝนตก น้ำจะไหลผ่านพื้นผิวและสร้างความชื้นสะสมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตะไคร่น้ำสามารถเจริญเติบโตและเกาะแน่นบนพื้น ทำให้พื้นลื่นจนสามารถเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

อันตรายจากพื้นลื่นที่มีตะไคร่น้ำ
ลื่นล้ม: เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุตามบ้านเรือน โดยเฉพาะกับเด็กและผู้สูงอายุ
เสียภาพลักษณ์บ้าน: พื้นสกปรกมีคราบเขียวทำให้บ้านดูไม่สะอาด ไม่น่ามอง
กัดกร่อนวัสดุ: พื้นที่มีตะไคร่น้ำเกาะหนาแน่นอาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพไวขึ้น โดยเฉพาะหินล้าง กระเบื้อง หรือปูนเปลือย

วิธีแก้ปัญหาพื้นลื่นจากตะไคร่น้ำอย่างได้ผล
1. ทำความสะอาดพื้นเป็นประจำ โดยใช้
แปรงทองเหลือง หากพบตะไคร่น้ำบนพื้นปูน หรือที่บริเวณอื่น ๆ ภายในบ้าน ให้ราดน้ำยาที่หาได้ง่าย ดังตัวอย่างด้านล่าง ลงบนพื้นทิ้งไว้สักพัก จากนั้นใช้แปรงทองเหลืองขัดบริเวณที่ตะไคร่น้ำ แล้วล้างออก ที่สำคัญเป็นการทำความสะอาดที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากอีกด้วย

น้ำส้มสายชู ผสมน้ำส้มสายชูกับเกลือเข้าด้วยกัน เสร็จแล้วนำมาราดบริเวณที่มีตะไคร่ และทิ้งไว้สักพัก จากนั้นให้ขัดออกด้วยผ้าชุบน้ำ สุดท้ายราดน้ำทำความสะอาด ก็จะได้พื้นปูนที่สะอาด ซึ่งวิธีนี้ยังสามารถใช้ได้กับผนังห้องครัวที่มีคราบน้ำมันเกาะ และคราบบนผนังห้องน้ำได้อีกด้วย

น้ำล้างห้องน้ำ นำน้ำยาล้างห้องน้ำมาผสมกับน้ำเปล่า และราดลงบนพื้นที่มีตะไคร่เกาะทิ้งเอาไว้สักพัก จากนั้นให้ใช้แปรงทองเหลืองขัด เสร็จแล้วฉีดน้ำความสะอาดคราบ เพียงเท่านี้ตะไคร่น้ำก็จะหมดไป 

เครื่องฉีดน้ำที่มีแรงดันสูง หากมีคราบตะไคร่น้ำเป็นจำนวนมาก แนะนำให้ใช้เครื่องฉีดน้ำที่มีแรงดันสูงในการทำความสะอาด ซึ่งเป็นวิธีที่รวดเร็วและกำจัดคราบได้ง่าย

โซดาไฟ โรยโซดาไฟลงบริเวณที่มีตะไคร่น้ำในขณะพื้นเปียก และทิ้งเอาไว้สักพัก จากนั้นใช้แปรงด้ามยาวขัดให้สะอาด เสร็จแล้วให้ฉีดน้ำเพื่อเป็นการทำความสะอาดอีกครั้ง โดยต้องระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากโซดาไฟมีความอันตราย แนะนำให้ใส่เสื้อแขนขาว และใส่ผ้าปิดปาก ปิดจมูกให้แน่นหนา

2. ใช้น้ำยากำจัดตะไคร่น้ำโดยเฉพาะ
มีน้ำยาเฉพาะทางที่สามารถฆ่าเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ เช่น
TOA Microkill 113: ใช้งานง่าย ทาแล้วปล่อยไว้ 3 ชั่วโมง ไม่ต้องล้างออก
Beger M-001 Mold Free: สูตรเข้มข้น ฆ่าเชื้อรา ตะไคร่น้ำ และแบคทีเรียได้ในขั้นตอนเดียว
หลังใช้น้ำยาฆ่าตะไคร่น้ำ ควรปล่อยให้พื้นแห้งสนิทก่อนใช้งาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

3. เคลือบผิวพื้นด้วยน้ำยาเคลือบกันลื่น
หากต้องการป้องกันระยะยาว แนะนำให้เคลือบพื้นด้วยน้ำยาเคลือบกันลื่น
สเปรย์กันลื่น/น้ำยากันลื่นพื้นกระเบื้อง
Anti-slip coating สำหรับพื้นปูน พื้นหิน พื้นลานซักล้าง
คุณสมบัติเด่นคือช่วยให้พื้นผิวหยาบเล็กน้อย เพิ่มแรงเสียดทานแม้เปียกน้ำ ป้องกันการลื่นล้มได้ดี

การป้องกันการเกิดตะไคร่น้ำในระยะยาว
1. ปรับปรุงระบบระบายน้ำ
พื้นควรมีความลาดเอียงเล็กน้อย เพื่อระบายน้ำออกได้ไว
อย่าให้มี “แอ่งน้ำ” หรือพื้นที่น้ำขังอยู่ตลอดเวลา
ทำความสะอาดรางน้ำหรือท่อระบายน้ำอย่างสม่ำเสมอ

2. เปิดให้แสงแดดเข้าถึง
ตัดแต่งต้นไม้หรือกิ่งไม้ที่บังแสงแดด
พยายามเปิดพื้นที่ให้แสงอาทิตย์ส่องถึงพื้นผิวอย่างน้อยบางช่วงของวัน

3. ปูพื้นด้วยวัสดุที่ไม่อมน้ำและไม่ลื่น
ใช้พื้นกระเบื้องกันลื่น (Anti-slip tile)
ปูพื้นด้วยหินภูเขาหรือทรายล้างที่ผ่านการเคลือบกันตะไคร่น้ำ
เลือกวัสดุที่ดูแลรักษาง่าย เช่น พื้นยางภายนอกหรือไม้เทียม

แนะนำผลิตภัณฑ์กันลื่นและกันตะไคร่น้ำยอดนิยม
TOA Microkill น้ำยาฆ่าตะไคร่น้ำ ทาแล้วปล่อยไว้ ไม่ต้องล้างออก
Beger MoldFree น้ำยากำจัดเชื้อรา ป้องกันการเกิดใหม่ได้นาน
Jorakay สเปรย์กันลื่น ใช้งานง่าย ไม่ทิ้งคราบ

    การจัดการปัญหาพื้นลื่นจากตะไคร่น้ำควรเริ่มจาก “การรู้สาเหตุ” → “ทำความสะอาด” → “ใช้ผลิตภัณฑ์เฉพาะ” และ “ป้องกันในระยะยาว” ด้วยการดูแลระบบระบายน้ำ เปิดรับแสง และเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่เหมาะสม
    เพราะการป้องกันอุบัติเหตุจากพื้นลื่นไม่ใช่เรื่องเล็ก การดูแลตั้งแต่ต้นจะช่วยให้บ้านของคุณปลอดภัย สะอาด และสวยงามอยู่เสมอ

     วิธีกำจัดเชื้อราตะไคร่น้ำ ตามที่ได้แนะนำไปเป็นวิธีที่จะทำให้ปัญหาดังกล่าวไม่กลับมาเกิดซ้ำอีกยาวนาน แต่อย่างไรก็ตามหากพื้นผิวยังคงโดนความชื้นอย่างต่อเนื่อง เชื้อราและตะไคร่น้ำก็มีโอกาสกลับมาเกิดซ้ำได้ (แต่อาจจะใช้เวลานานกว่าปกติเพราะฤทธิ์ของน้ำยาฆ่าเชื้อราที่ทาไว้) ทั้งนี้คุณควรตรวจสอบจุดที่มีความชื้นในบริเวณบ้านอย่างสม่ำเสมอ และรีบดำเนินการแก้ไข เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาบ้านอื่น ๆ ที่อาจตามมาจากความชื้น เช่น ปัญหารั่วซึม ลอกล่อน หรือแตกร้าว นั่นเอง ผลิตภัณฑ์ดังที่กล่าวมานี้สามารถสั่งซื้อได้จาก เลิศวสิน นะครับ