ทำไมสีทาบ้านภายนอกถึงซีดไว ยิ่งสีเข้มยิ่งซีดไว ต้องแก้อย่างไร

ทำไมสีทาบ้านภายนอกถึงซีดไว ยิ่งสีเข้มยิ่งซีดไว ต้องแก้อย่างไร

สาเหตุที่ทำให้สีทาบ้านภายนอกซีดไว

1. แสงแดดและรังสียูวี
     แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้สีทาบ้านภายนอกเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะรังสียูวี (UV) ที่สามารถทำลายพันธะเคมีของเม็ดสี ส่งผลให้สีจางลงเร็วขึ้น สีเข้มมักดูดซับความร้อนมากกว่าสีอ่อน ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของเนื้อสีเร็วขึ้น การสัมผัสกับรังสียูวีเป็นเวลานานสามารถทำให้โมเลกุลของสีแตกตัว ทำให้สีซีดและดูจืดจางไปตามกาลเวลา นอกจากนี้ การสะสมความร้อนของสีเข้มยังสามารถทำให้เกิดการขยายตัวและหดตัวของชั้นสี ส่งผลให้สีลอกหรือแตกร้าวได้ง่ายขึ้น
2. สภาพอากาศและมลภาวะ
     สภาพอากาศที่รุนแรง เช่น ฝนตกหนัก อากาศร้อนจัด และมลภาวะในอากาศ เช่น ฝุ่นละอองและสารเคมี สามารถกัดกร่อนชั้นสีและทำให้สีซีดเร็วขึ้น อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น อากาศร้อนกลางวันแล้วเย็นลงในตอนกลางคืน ทำให้สีขยายตัวและหดตัวบ่อยครั้ง ส่งผลให้เกิดการแตกร้าวและหลุดล่อน การสะสมของคราบสกปรก เช่น เขม่าควันจากรถยนต์ ฝุ่นละออง และเชื้อรา ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้สีหมองลงอย่างรวดเร็ว
3. คุณภาพของสีและการเลือกใช้ผิดประเภท
     การเลือกใช้สีคุณภาพต่ำหรือสีที่ไม่เหมาะกับพื้นผิวภายนอกเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สีซีดไว สีราคาถูกมักไม่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสียูวีและสารเคลือบป้องกันน้ำ ทำให้เสื่อมสภาพได้เร็วกว่า สีที่ออกแบบมาสำหรับใช้ภายในอาคาร เมื่อนำมาใช้ภายนอกจะเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ การเลือกสีที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของพื้นที่จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
4. การเตรียมพื้นผิวไม่ดี
     หากพื้นผิวที่ทาสีมีความชื้น คราบสกปรก หรือสีเดิมที่หลุดล่อนแต่ไม่ได้ขูดออกก่อน การทาสีใหม่อาจไม่สามารถยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดีพอ และจะทำให้สีเสื่อมสภาพหรือหลุดร่อนเร็วกว่าปกติ การเตรียมพื้นผิวที่ไม่สะอาดหรือมีเชื้อราก็อาจทำให้เกิดคราบด่างและทำให้สีไม่ติดทนนาน การขัดล้างพื้นผิวให้สะอาดก่อนทาสีและปล่อยให้แห้งสนิทเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม
5. วิธีการทาสีที่ไม่ถูกต้อง
     การทาสีบางเกินไป หรือใช้จำนวนชั้นสีไม่เพียงพอ อาจทำให้สีซีดเร็วขึ้น เช่นเดียวกับการไม่ใช้สีรองพื้นหรือใช้ลูกกลิ้งและแปรงที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็ส่งผลต่อคุณภาพของสีและอายุการใช้งาน การทาสีในสภาพอากาศที่มีความชื้นสูง หรือทาในขณะที่ฝนตก จะทำให้สีไม่ยึดเกาะกับพื้นผิวดีพอและอาจหลุดลอกได้ง่ายขึ้น

วิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาสีซีดเร็ว

1. เลือกใช้สีที่มีคุณภาพสูง
     การใช้สีเกรดพรีเมียมที่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสียูวีและสารเคลือบป้องกันน้ำจะช่วยยืดอายุการใช้งานของสีทาภายนอก ควรเลือกใช้สีที่ได้รับการรับรองว่าทนทานต่อสภาพอากาศร้อนชื้น สีที่มีเทคโนโลยีสะท้อนความร้อนสามารถช่วยลดอุณหภูมิของพื้นผิวและลดปัญหาสีซีดจางได้
2. ใช้สีรองพื้นคุณภาพดี
     การใช้สีรองพื้นที่เหมาะสมกับพื้นผิวเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะช่วยให้สีชั้นบนยึดเกาะได้ดีขึ้น และป้องกันความชื้นไม่ให้ซึมเข้าสู่ผนัง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาสีซีดและหลุดล่อนได้
3. ทาสีให้ได้ความหนาที่เหมาะสม
     ควรทาสีอย่างน้อย 2-3 ชั้น และปล่อยให้แต่ละชั้นแห้งสนิทก่อนทาทับ เพื่อให้ได้ชั้นสีที่หนาและทนทานขึ้น การทาสีที่หนาขึ้นจะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพจากรังสียูวีและสภาพอากาศที่แปรปรวน
4. ใช้เทคนิคการทาสีที่ถูกต้อง
     ควรใช้แปรง ลูกกลิ้ง หรือเครื่องพ่นสีที่เหมาะสมกับประเภทของสีและพื้นผิว การทาสีในช่วงที่มีแดดจัดเกินไปอาจทำให้สีแห้งเร็วเกินไปและยึดเกาะไม่ดี ควรเลือกทาสีในช่วงเช้าหรือเย็นที่อุณหภูมิไม่ร้อนจนเกินไป
5. หลีกเลี่ยงการใช้สีเข้มบริเวณที่โดนแดดจัด
     
หากต้องการใช้สีเข้ม ควรเลือกใช้เฉพาะบริเวณที่ไม่ได้โดนแดดตลอดวัน หรือเลือกใช้สีเข้มในเฉดที่มีคุณสมบัติสะท้อนแสงมากขึ้น เช่น สีที่มีเทคโนโลยีสะท้อนความร้อน

ทำไมสีเข้มซีดไวกว่าสีอ่อน
     หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมสีเข้ม เช่น สีน้ำเงิน สีดำ หรือสีแดง จึงซีดเร็วกว่าสีอ่อนอย่างสีขาวหรือสีครีม นั่นเป็นเพราะสีเข้มดูดซับความร้อนจากแสงแดดมากกว่าสีอ่อน ทำให้เม็ดสีเสื่อมสภาพเร็วกว่าสีอ่อนที่สะท้อนความร้อนออกไป นอกจากนี้ สีเข้มยังมีแนวโน้มที่จะแสดงความซีดจางได้ชัดเจนกว่าสีอ่อน เมื่อเม็ดสีเริ่มสลายตัว สีเข้มจะเปลี่ยนเป็นสีที่หม่นลงหรือดูซีดมากกว่าสีอ่อนที่ยังคงความสว่างไว้ได้ดีกว่า

            หากใครสนใจผลิตภัณฑ์ ในบทความ หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อ ฝ่ายขายเลิศวสิน โทร. 053126155 หรือ ช้อปออนไลน์ Tiktok shop  ได้เลยครับ และถ้าไม่อยากทำเอง ต้องการบริการมืออาชีพ สามารถติดต่อ ทีมงานจากเลิศวสิน ได้เลยครับ

*ภาพประกอบเพื่อการโฆษณาเท่านั้น