หน้าหนาว…ถึงคราวซ่อมบ้าน

หน้าหนาว…ถึงคราวซ่อมบ้าน

      ฤดูหนาวนั้น เป็นฤดูที่อากาศเริ่มเย็นและแห้ง หลังจากที่ผ่านฤดูฝนมาอย่างหนักหน่วง บางบ้านอาจรั่วซึม หรือบางบ้านอาจเสียหายหนักเพราะน้ำท่วมกันเลยทีเดียว เมื่ออากาศเริ่มเย็นและแห้ง ไม่มีฝนตกรบกวน หน้าหนาวนี้จึงเหมาะแก่การซ่อมแซมต่างๆ ตั้งแต่หลังคา ฝ้า เพดาน ฝาผนัง สังเกตดูรอยร้าวจากฝนและลม ถ้ามีก็รีบอุดรอยรั่ว รอยแตกนั้นเสีย รวมทั้งด้านนอกบ้านดูคราบตะไคร่ตามผนังปูน ถ้ามีก็รีบขัดออก รวมทั้งดูรอยน้ำซึมต่างๆ และอย่าลืมดูรอยรั่วตามขอบประตู หน้าต่างด้วย ยิ่งบ้านไม้ต้องดูแลพิเศษเพราะหลังจากผ่านความชื้นสูงมา ไม้อาจเปลี่ยนรูปไป หรือเกิดเชื้อราได้ ซึ่งเราจะมาสรุปเป็นข้อให้คครับว่า เราจะต้องทำอะไรบ้าง

1. ซ่อมแซมหลังคา
     ให้เริ่มเช็กจุดเสียหาย ในช่วงหน้าฝนจากลมพายุต่าง ๆ ที่พัดเอากิ่งไม้ ใบไม้ มากระทบหลังบ้านซึ่ง วัสดุมุงหลังคาก็มีโอกาสเกิดรอยแตกร้าวได้ ให้สังเกตรอยเหล่านี้แล้วรีบซ่อมแซมก่อนจะเกิดการรั่วซึมตามมา

2. แก้ไขจุดรั่วซึม
     สังเกตจาก ราดำที่ฝ้าเพดาน รอยร้าวที่ผนัง วงกบประตู และกรอบหน้าต่าง ให้อุดให้เรียบร้อย ถ้าเป็นรอยไม่ลึกมาก ใช้อะคริลิกหรือโพลียูรีเทนอุดรอยต่อ แต่ถ้าเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่และลึกควรจะใช้วัสดุอุดรอยต่ออื่นโป๊ว หรือไม่แน่ใจให้เรียกช่างมาดูเพราะถ้าร้าวมากอาจส่งผลเสียต่อโครงสร้างได้ สำหรับฝ้าเพดาน หลังจากซ่อมแซมบ้านตามจุดที่รั่วซึมเรียบร้อย ถ้าเสียหายมาก ให้เปลี่ยนฝ้าเพดานใหม่ หรือจะทาน้ำยากำจัดเชื้อราแล้วคอยทาสีทับก็ได้หากสภาพยังดีอยู่

3. ทำความสะอาดรางน้ำ
     ทำความสะอาดรางน้ำจากใบไม้ กิ่งไม้ ที่เข้ามาอุดตันในรางน้ำ เพราะอาจสะสมอุดตันต่อไปในอนาคต

4. กำจัดเชื้อรา เพื่อสุขอนามัยที่ดี
     ถ้าอากาศในบ้านถ่ายเทไม่เพียงพอ ก็มักพบเชื้อราตามจุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโซฟา ตู้เสื้อผ้า พื้น ผนัง หรือส่วนอื่น ๆ ของบ้าน ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาด ที่กำจัดเชื้อราได้ ทำความสะอาดก่อน แล้วจึงทิ้งให้แห้งสนิท ก่อนจะทารองพื้นหรือทาสีต่อไป โดยอย่าลืมสวมถุงมือและหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันเชื้อราเข้าสู่ร่างกายด้วย

5. ทาสีใหม่
     หากสีที่ทาไว้ลอกล่อน ควรจะขูดสีเดิมออกก่อน แล้วเลือกผลิตภัณฑ์สีคุณภาพมาทาทับ เพื่อให้บ้านกลับมาสวยอีกครั้ง

6. ประตูหน้าต่างฝืด 
     ส่วนเล็ก ๆ อย่างบานพับประตู หน้าต่าง ก็มีโอกาสที่จะเกิดสนิม หรือแม้แต่รางเลื่อนหน้าต่างที่อาจจะสกปรกเนื่องจากฝนสาด ทำให้ติดขัด ไม่ลื่นเท่าที่ควร ให้ทำความสะอาดฝุ่น ปัดสนิม และใช้น้ำมันหล่อลื่น เพื่อให้เปิด-ปิดประตูได้สะดวกและช่วยป้องกันสนิมไปพร้อม ๆ กัน

7. เช็กระบบไฟฟ้า
     หลังจากผ่านหน้าฝนมาแล้วให้ตรวจสอบระบบไฟฟ้า ที่แาจมีน้ำที่รั่วซึมไหลเข้าไป เสี่ยงต่อการถูกไฟดูดหรือทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้

8. ตรวจสภาพรอบ ๆ ว่าพื้น รั้ว ยังอยู่ในสภาพดีหรือไม่
     น้ำฝนที่ตกลงมาจำนวนมาก อาจไหลพัดดินไปทำให้เกิดโพรง ถ้าดินอ่อนหรือบดอัดไม่ดี ก็มีโอกาสที่พื้นจะทรุดตัวเมื่อฝนหยุด จนเกิดโพรงใต้บ้าน ซึ่งเป็นที่อยู่ของงูหรือหนูแล้ว ก็ยังอาจส่งผลเสียต่อโครงสร้างบ้านโดยรวม ยิ่งในพื้นที่น้ำท่วมที่น้ำไหลผ่าน แม้แต่รั้วก็อาจเอียง หรือทรุด ซึ่งควรปรึกษาช่างเพื่อการซ่อมแซมต่อไป

            หากใครสนใจผลิตภัณฑ์ ในบทความ หรือต้องการสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลผลิตภัณฑ์ สามารถติดต่อ ฝ่ายขายเลิศวสิน โทร. 053126155 หรือ ช้อปออนไลน์ Tiktok shop  ได้เลยครับ และถ้าไม่อยากทำเอง ต้องการบริการมืออาชีพ สามารถติดต่อ ทีมงานจากเลิศวสิน ได้เลยครับ

*ภาพประกอบเพื่อการโฆษณาเท่านั้น